วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ข้อสอบ Internet Protocol Vertion6

1.Internet Protocol Vertion6 ย่อมาจาก
ก. IPV6
ข. IPS6
ค. IPT6
ง. IPI6

2.ช่วงปลายปี 1992 มีการยื่นข้อเสนอในการพัฒนาโพรโตคอลทั้งหมดกี่ฉบับ
ก. 1 ฉบับ
ข. 2 ฉบับ
ค. 3 ฉบับ
ง. 4 ฉบับ
3. จากข้อที่ 4 อะไรที่ไม่ใช่ข้อเสนอในการพัฒนาโพรโตคอล
ก. CNAT
ข. IP Encaps
ค.Nimrods
ง. Simple CLNP
4.เดือนธันวาคมปี 1992 มีการส่งข้อเสนอเพิ่มอีกกี่ฉบับ
ก. 3 ฉบับ
ข. 4 ฉบับ
ค. 5 ฉบับ
ง. 6 ฉบับ
5. IPv6 ประกอบด้วยเลขฐานสองจำนวนกี่บิต
ก. 126 บิต
ข. 127 บิต
ค.128 บิต
ง .129 บิต
6.โครงการ IPng Area จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
ก.ปี 1994
ข.ปี 199
ค. ปี 1996
ง. ปี 1997
7. IP Address ย่อมาจากอะไร
ก .Internet Protocol Address
ข . Network Information
ค . Address Version
ง . real-time service
8 .การปรับจาก IPv4 เป็น IPv6 จะทำเสร็จสมบูรณ์ในราวๆ ปีใด
ก .ปี 2008
ข .ปี 2009
ค . ปี2010
ง . ปี2011
9 .ข้อใดไม่ใช่จุดเด่นของ IPv6 ที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมากจาก IPv4
ก . ขยายขนาด Address ขึ้นเป็น 128 บิต สามารถรองรับการใช้งาน IP Address ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้
ข. เพิ่มขีดความสามารถในการเลือกเส้นทางและสนับสนุน Mobile Host
ค. สนับสนุนการทำงานแบบเวลาจริง (real-time service)
ง. พัฒนาโครงร่างของระบบ Firewall สำหรับ IPng
10 .ความแตกต่างระหว่าง IPv6 และ IPv4 มีอยู่กี่ส่วน
ก . 5 ส่วน
ข . 6 ส่วน
ค . 7 ส่วน
ง. 8 ส่วน
11 . เทคนิคการทำงานร่วมกันระหว่าง IPv4 และ IPv6 แบ่งออกเป็นกี่ประเภท
ก .2 ประเภท
ข .3 ประเภท
ค .4 ประเภท
ง . 5 ประเภท

12. ความแตกต่างของจำนวน ไอพีแอดเดรส มีมากถึงกี่เท่า
ก. 296 เท่า
ข. 297 เท่า
ค. 298 เท่า
ง. 299 เท่า

13. Internet Protocal version 6 (IPv6) บางครั้งเรียกว่าอะไร
ก. Next Generation
ข. IPng
ค. Next Generation Internet Protocol
ง. ข และ ค ถูก
14.หมายเลขไอพีแอดเดรสบนมาตรฐานของอินเตอร์เน็ตโพรโตคอลคืออะไร
ก. Internet Protocol version 4 (IPv4)
ข .Protocol
ค. version 4
ง.ถูกทุกข้อ
15.ส่วนประกอบสำคัญของอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลคืออะไร
ก. IP address
ข.ไอพีแอดเดรส
ค. หมายเลขอินเทอร์เน็ตแอดเดรส
ง. ถูกทุกข้อ
16.เทคโนโลยีต่างๆ ในอนาคตจะมีการพัฒนาอะไร
ก. Internet Protocal version 6
ข.IP Address
ค. Network Information
ง. Address Version
17.โดยทั่วไป IP Address มีกี่ลักษณะ
ก.1 ลักษณะ
ข.2 ลักษณะ
ค.3 ลักษณะ
ง.4 ลักษณะ
18. Internet Assigned Numbers Authorityตัวย่อคือ
ก .IPv6
ข. IETF
ค. IESG
ง.IANA
19.เอกสาร RFC1752 ชุดนี้ได้ถูกยอมรับและดำเนินการต่อโดยคณะทำงานภายใต้ชื่อว่าอะไร
ก. Simple Internet Protocol Plus
ข. Internet Assigned Numbers Authority
ค. Internet Engineering Steering Group
ง. Internet Protocol Address
20. IETF ใช้เวลากว่าสามปีในการพัฒนาจนได้โพรโตคอลอะไร
ก. Internet Protocol Address
ข. IP Next Generation
ค. Internet Assigned Numbers Authority
ง.ถูกทุกข้อ
แบบฝึกหัด
จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดมาเพียงข้อเดียว
1. IP Address มีชื่อเต็มว่า
ก. Internet Protocall Address ข. Internet Protocol Address
ค. Internat Protocall Address ง. Internets Protocol Address

2. ข้อใดเป็นลักษณะเฉพาะของ IP Address ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง
ก. ตัวเลขสามารถซ้ำกันได้ทุกตัว
ข. สามารถใช้เครื่องหมาย “;” คั่นระหว่างเลขแต่ละหลักได้
ค. ตัวเลขทุกตัวจะต้องไม่ซ้ำกัน
ง. แต่ละประเทศมีข้อกำหนดที่ต่างกัน

3. Internet Protocol version ใดที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน
ก. IPv1
ข. IPv2
ค. IPv3
ง. IPv4

4. เหตุใดจึงมีการคิดค้น Internet Protocol version ใหม่ขึ้น
ก. เพราะ IP Address ที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้
ข. เพราะต้องมีการคิดค้นเวอร์ชันใหม่ทุกๆ 3 ปี
ค. เป็นการลงมติเห็นชอบจากเวทีโลก
ง. ไม่มีข้อใดถูก

5. IPv4 และ IPV6 แตกต่างกันอย่างไร
ก. IPv4 มี 128 บิต IPV6 มี 64 บิต
ข. IPv4 มี 128 บิต IPV6 มี 32 บิต
ค. IPv4 มี 32 บิต IPV6 มี 128 บิต
ง. IPv4 มี 32 บิต IPV6 มี 64 บิต

6. ข้อใดผิด
ก. IPV6 ผู้บริหารมีส่วนในการบริหารจัดการงานมากขึ้น
ข. IPV6 ระบบมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ค. IPV6 เครือข่ายมีการทำงานแบบ Real Time Processing
ง. IPV6 มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ (Mobile IP)

7. เหตุใดประเทศในแถบอเมริกาเหนือจึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้ IPV6
ก. เพราะสังคมเป็นแบบประชาธิปไตย
ข. เพราะมี IP Address ที่กำหนดขึ้นใช้เองเฉพาะชาวอเมริกัน
ค. เพราะมีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง
ง. เพราะได้รับการจัดสรร IP Address ไปถึง 70% ของ IP Address ที่ใช้ทั่วโลก
8. แนวโน้มการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ IP Address อย่างไร
ก. ทำให้ IP Address มีปริมาณเกินความต้องการ
ข. มีการนำเอา IP Address มาใช้กับเทคโนโลยี ทำให้ต้องการใช้ IP Address มากขึ้น
ค. เทคโนโลยีด้านอื่นจะเข้ามาแทนการใช้ IP Address
ง. การใช้ IP Address ควบคู่กับเทคโนโลยีจะถูกจำกัดในวงแคบ

9. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ของการมี IP Address ที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
ก. สามารถส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในการสื่อสาร
ข. เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้เหมือนคอมพิวเตอร์ โดยที่ไม่ต้องผ่านระบบใดๆ
ค. ทำให้ระบบภายในของอุปกรณ์นั้นๆ เกิดผลเสีย
ง. ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

10. เหตุใดเราจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่อง IPV6
ก. เพราะหาก IPv4 ถูกใช้หมดไป IPV6 เป็นสิ่งที่จะแก้ปัญหานี้ได้
ข. เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต
ค. เพื่อความได้เปรียบทางธุรกิจและโอกาสในหลายๆ ด้าน
ง. ถูกต้องทุกข้อ

11. IPV6 มีการเชื่อมต่อภายในประเทศกี่องค์กร
ก. 4 องค์กร
ข. 3 องค์กร
ค. 2 องค์กร
ง. 5 องค์กร

12. IPV6 มีขนาดเท่ากับกี่บิต
ก. 128 บิต
ข. 56 บิต
ค. 24 บิต
ง. 32 บิต

13. IPV6 มีรูปแบบของ IP ADDRESS อยู่ทั้งหมดเท่าไร
ก. 9 ประเภท
ข. 6 ประเภท
ค. 7 ประเภท
ง. 5 ประเภท

14. เมื่อจัดอันดับประเทศที่ได้รับการจัดสรรหมายเลข IPV6 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ
ก. ญี่ปุ่น
ข. สหรัฐอเมริกา
ค. เวียดนาม
ง. อังกฤษ

15. IPV4 มีขนาดเท่ากับกี่บิต
ก. 128 บิต
ข. 56 บิต
ค. 24 บิต
ง. 32 บิต

16. เมื่อจัดอันดับประเทศที่ได้รับการจัดสรรหมายเลข IPV6 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ
ก. ญี่ปุ่น
ข. สหรัฐอเมริกา
ค. เวียดนาม
ง. อังกฤษ

17. ข้อใดคือข้อเสียของ IPV6
ก. มีหมายเลข IP Address มากกว่าเดิมมาก ทำให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้
ข. เครือข่ายมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นการใช้งาน IP จริงทั้งหมด ต่างจากแต่ก่อนที่ไม่สามารถใช้งานได้ทุกเบอร์
ค. มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
ง. ประเทศไทยยังมีการติดตั้งเครือข่าย IPv6 ไม่มากนัก จะเกิดขึ้นกับคนบางกลุ่มหรือกับผู้ให้บริการรายใหญ่ๆเท่านั้น

18. เครือข่าย IPV6 ได้กำหนดกฎในการระบุตำแหน่งเป็น
ก. 1 ประเภท
ข. 2 ประเภท
ค. 3 ประเภท
ง. 4 ประเภท
19. IPV6 นั้นจะใช้เลขฐานอะไร
ก. เลขฐาน 2
ข. เลขฐาน 6
ค. เลขฐาน 16
ง.เลขฐาน 12

20. เมื่อจัดอันดับประเทศที่ได้รับการจัดสรรหมายเลข IPV6 มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ
ก. ญี่ปุ่น
ข. สหรัฐอเมริกา
ค. เวียดนาม
ง. อังกฤษ

เฉลยแบบฝึกหัด

1. ข
2. ค
3. ง
4. ก
5. ค
6. ก
7. ง
8. ข
9. ค
10. ง
11. ก
12. ง
13. ค
14. ข
15. ง
16. ข
17.ค
18. ง
19. ข
20. ข









วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ข้อสอบปลายภาค 50 ข้อ

ข้อสอบปลายภาค 50 ข้อ

1.พื้นที่ที่สัญญาณครอบคลุมการทำงานเรียกว่าอะไร
ก. AP

ข. BSS
ค. ESS
ง. DCF
เฉลย ข. BSS

***************************************************

2. ข้อใดไม่ถูกต้องในการกล่าวถึง Rang ของความถี่

ก. 902 MHz – 928 MHz
ข. 2.400 GHz – 2.8435 GHz
ค. 5.725 GHz – 5.855 GHz

ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข.
เฉลย ง. ข้อ ก. และ ข้อ ข.

*************************************************
จงใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามจากข้อ 3 – 8 เขียนคำตอบลงในช่อง ก.


A. Industry
B. Science
C. Medical
D. 900 MHz
E. 2.400 GHz
F. IEEE802.11a
G. IEEE802.11b
H. 54 Mbits
I. 2 Mbits
J. 11 Mbits
K. DSSS
L. FHSS
M. ISM

3. Data Rate สูงสุดที่สามารถส่งข้อมูลได้ใน wireless Lan ที่ใช้ Machanism แบบ OFDM
เฉลย H. 54 Mbits

**************************************************
4. Radio Frequency ที่ใช้งานเยอะที่สุดใน IEEE802.11
เฉลย E. 2.400 GHz

**************************************************
5. IEEE802.11b ใช้ machanism แบบใด
เฉลย K. DSSS

**************************************************
6. Machanism แบบใดที่มี Data Rate 11 Mbits
เฉลย K. DSSS

**************************************************
7. ย่านความถี่ที่อนุญาตให้ใช้ได้ในงานอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และการแพทย์
เฉลย M. ISM

*************************************************
8. Radio frequency 2.400 GHz มีกี่ channel
ก. 54
ข. 69
ค. 79 ง. 89
เฉลย ค. 79

*************************************************
9. ในการ hop แต่ละ hop ใช้การ synchronize ต่างกันเท่าไหร่
ก. 0.4 ms per hop
ข. 0.45 ms per hop
ค. 0.2 ms per hop
ง. 0.25 ms per hop
เฉลย ก. 0.4 ms per hop

************************************************
10. สถาปัตยกรรมของ wireless lan ใน mode ใดที่ต้องเดินสาย wire network
ก. Ad-hoc
ข. Peer to peer
ค. Infrastructure
ง. BSS
เฉลย ค. Infrastructure

************************************************
11. Routing Protocol มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ก. 2 แบบ Link state & Distance Vector
ข. 2 แบบ Link state & Dynamic
ค. 2 แบบ Dynamic & Static
ง. 2 แบบ DGP & OSPF
เฉลย ค. 2 แบบ Dynamic & Static

***********************************************
12. ข้อใดไม่ใช่ข้อพิจารณาลักษณะของ Routing ที่ดี
ก. Cost ต่ำ
ข. Delay ต่ำ
ค. Space ต่ำ
ง. Hop ต่ำ
เฉลย ค. Space ต่ำ

***********************************************
13. Protocol BGP พิจารณาการส่งข้อมูลจากอะไร
ก. จำนวนลิงค์
ข. ระยะทาง
ค. จำนวน router
ง. ราคาค่าเช่า
เฉลย ค. จำนวน router

*************************************************
14. ลักษณะสำคัญของ routing table ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก. ต้นทาง ข. ปลายทาง
ค. ต้นทาง ปลายทาง
ง. ต้นทาง โปรโตคอล ปลายทาง
เฉลย ง. ต้นทาง โปรโตคอล ปลายทาง

*************************************************
15. OSFP (Open Shortest Path First) เป็นชื่อ
ก. Algorithm
ข. Protocol
ค. Router
ง. Routing Table
เฉลย ข.Protocol

*************************************************
16. ชนิดของเส้นใยแก้วนำแสงที่ใช้รับ – ส่งข้อมูลในระยะทางไกล ๆ
ก. Grade Index Multimode
ข. Step Index Multimode
ค. Single Mode
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ค. Single Mode

*************************************************
17. แกนกลางที่เป็นใยแก้วนำแสงเรียกว่า
ก. Jacket
ข. Core
ค. Cladding
ง. Fiber
เฉลย ข. Core

*************************************************
18. แสดงที่เดินทางภายใสเส้นใยนำแสงจะตกกระทบเป็นมุม คือลักษณะของเส้นใยแก้วแบบใด
ก. Grade Index Multimode
ข. Step Index Multimode
ค. Single Mode ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ข. Step Index Multimode

**************************************************
19. แสดงที่เดินทางภายในเส้นใยแก้วนำแสงจะเป็นเส้นตรง คือลักษณะของเส้นใยแก้วแบบใด
ก. Grade Index multimode
ข. Step Index Multimode
ค. Single Mode
ง. ถูกทุกข้อ
เฉลย ค. Single Mode

**************************************************
20. ต้นต้20. ต้นกำหนดแสง (optical source) ที่มี Power ของแสงเข้มข้นคือ
ก. Laser
ข. APD
ค. LED
ง. PIN-FET
เฉลย ก. Laser

*************************************************
21. ข้อใดคือ Fast Ethernet
ก. 10base5
ข. 1000baseFX
ค. 100BaseFL
ง. 10GbaseTX
เฉลย ข. 1000baseFX

***************************************************
22. 10BasF ใช้สายสัญญาณอะไรในการส่งข้อมูล
ก. UTP ข. STP
ค. Coaxial
ง. Fiber Optic
เฉลย ง. Fiber Optic

***************************************************
23. ข้อใดไม่ใช่ Ethernet แบบ 1000 mbps
ก. 1000BaseT
ข. 100BaseTX
ค. 1000BaseX
ง. 1000BaseFL
เฉลย ข. 100BaseTX

**************************************************
24. ขนาด Frame ที่เล็กที่สุดของ Gigabit Ethernet คือ
ก. 53 byte
ข. 64 byte
ค. 128 byte
ง. 512 byte
เฉลย

**************************************************
25. Ethernet ใช้ protocol ใดในการตรวจสอบการส่งข้อมูล
ก. LLC
ข. CSMA/CA
ค. CSMA/CD
ง. ALOHA
เฉลย ค.CSMA/CD

*************************************************

26. Ethernet 10baseT ต่อยาวกี่เมตรสูงสุด
ก. 80 ม.
ข. 100 ม.
ค. 150 ม.
ง. 185 ม.
เฉลย ข. 100 ม

**************************************************
27. ใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐานของ Ethernet
ก. OSI
ข. IEEE
ค. ISO
ง. CCITT
เฉลย ข.IEEE

***************************************************
28. 10Base5 ใช้สาย Coaxial แบบใด
ก. Thin
ข. Thick
ค. UTP
ง. STP
เฉลย ข.Thick

**************************************************
29. Fast Ethernet มีความเร็วเท่าใด
ก. 10 mbps
ข. 100 mbps
ค. 1000 mbps
ง. 10 Gbps
เฉลย ข. 100 mbps

***************************************************
30. 100 Mbps, baseband, long wavelength over optical fiber cable คือ มาตรฐานของ
ก. 1000Base-LX
ข. 1000Base-FX
ค. 1000Base-T2
ง. 1000Base-T4
เฉลย ข. 1000Base-FX

**************************************************
31. ATM มีขนาดกี่ไบต์
ก. 48 ไบต์
ข. 53 ไบต์
ค. 64 ไบต์
ง. 128 ไบต์
เฉลย ข. 53 ไบต์

**************************************************
32. CSMA พัฒนามาจาก
ก. CSMA/CA
ข. CSMA/CD
ค. CSMA
ง. ALOHA
เฉลย ง. ALOHA

**************************************************
33. Internet เกิดขึ้นที่ประเทศอะไร
ก. AU
ข. JP
ค. USA
ง. TH
เฉลย ค.USA

**************************************************
34. เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายข้อมูล หรือ Transport Technology
ก. SEH
ข. ATM
ค. Mobile
ง. DWDM
เฉลย ก. SDH

***************************************************
35. ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเรียกว่าอะไร
ก. CS internet
ข. Operator
ค. Admin
ง. ISP
เฉลย ง. ISP

***************************************************
36. การแจกจ่ายหมายเลขไอพีแอดเดรส ให้กับเครื่องลูกโดยอัตโนมัติเรียกว่าอะไร
ก. DNS
ข. FTP
ค. DHCP
ง. Proxxy
เฉลย ค. DHCP

***************************************************
37. การถ่ายโอนข้อมูลบนระบบอินเตอร์เน็ตเรียกว่าอะไร
ก. DNS
ข. FTP
ค. DHCP
ง. Proxxy
เฉลย ข. FTP

**************************************************
38. โปรโตคอลการสื่อการที่เป็น offline
ก. ICMP
ข. TCP
ค. UDP
ง. ARP
เฉลย ค. UDP

***************************************************
39. การหาเส้นทางการส่งข้อมูลเรียกว่า
ก. Routing
ข. Routing Protocol
ค. RoutingTable
ง. Router
เฉลย ก. Routing

**************************************************
40. ข้อใดไม่มีในขั้นตอนการทำ server 7 พ.ค. 48
ก. DHCP
ข. DNS
ค. Routing Protocol
ง. Virtual
เฉลยข้อ ข. DNS

**************************************************
41. หมายเลข IP Class ใดรองรับการทำงานของ host ได้สูงสุด
ก. A
ข. B
ค. C
ง. D
เฉลย ก. A

**************************************************
42. อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อเครือข่ายต่างชนิดเข้าด้วยกันคือ
ก. Hub
ข. Switching
ค. Modem
ง. Router
เฉลย ง. Router

*************************************************
43. การ set ค่าความสำคัญสูงสุด (High priority) ของ packet เป็นหน้าที่ของ function ใดต่อไปนี้
ก. PIFS
ข. SIFS
ค. DIFS
ง. MIBเฉลย ก. PIFS

****************************************************
44. การป้องกันการชนกันของการส่งข้อมูลใด WLAN ใช้หลักการใด
ก. ALOHA
ข. CSMA
ค. CSMA/CA
ง. CSMA/CD
เฉลย ง. CSMA/CD

***************************************************
45. Data Rate สูงสุดขนาด 54 Mb ที่ส่งได้ใน WLAN ใช้มาตรฐานใดและใช้หลัก mechanism (กลไกการส่ง) แบบใด
ก. IEEE802.11a ; DSSS
ข. IEEE802.11b ; FHSS
ค. IEEE802.11a ; OFDM
ง. IEEE802.11b ; OFDM
เฉลย ค. IEEE802.11a ; OFDM

***************************************************
46. อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณ D/A คือ
ก. Hub
ข. Switching
ค. Modem ง. Router
เฉลย ค. Modem

**************************************************
47.อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่บรอดแคสสัญญาณ (Broadcast) คือ
ก. Hub
ข. Switching
ค. Modem
ง. Router
เฉลย ก. Hub

*************************************************
48. Mechanism ใดของ WLAN ที่มีการรบกวน (Interference) สูงที่สุดใด
ก. Diffuse IR
ข. DSSS
ค. OFDM
ง. FHSS
เฉลย ง. FHSS

************************************************
49. CIDR 192.168.0.0/24 จะมีค่า subnet mask เท่าใด
ก. 225.225.0.0
ข. 225.225.128.0
ค. 225.225.225.0
ง. 225.225.225.192
เฉลย ค. 225.225.225.0

*************************************************
50. การ Roaming ใช้กับการโอนถ่ายข้อมูลระหว่าง
ก. AP กับ AP
ข. BSSกับ AP
ค. AP กับ BSS ง. BSS กับ BSS
เฉลย ก. AP กับ AP

*************************************************



วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Topology

Topology

การจัดรูปโครงสร้างของอุปกรณ์สื่อสารเพื่อจัดตั้งเป็นระบบเครือข่าย สามารถกระทำได้หลายแบบดังนี้

1. ระบบเครือข่ายที่แบ่งประเภทโดยพิจารณาจากการจัดโครงสร้างอุปกรณ์เป็นหลัก เรียกว่า การจัดรูปทรงระบบเครือข่าย (Topology)ได้แก่ ระบบเครือข่ายแบบดาว แบบบัส และแบบวงแหวน เป็นต้น
2. ระบบเครือข่ายตามขนาดทางกายภาพของระยะทางในการส่งข้อมูลเป็นหลัก ได้แก่ เครือข่ายเฉพาะบริเวณ (LAN)เครือข่ายในเขตเมือง (MAN)เครือข่ายวงกว้าง (WAN) และเครือข่ายสหภาค (Internetwork)
3. ระบบเครือข่ายที่พิจารณาจากขอบเขตการใช้งานขององค์กร เช่น เครือข่ายอินทราเนต (Intranet) เครือข่ายเอ็กซ์ทราเนต( Extranet) และเครือข่ายสากล (Internet)การจัดรูปทรงระบบเครือข่าย (Topology)วิธีการอธิบายระบบเครือข่ายแบบหนึ่งคือการพิจารณาจากรูปทรงของระบบเครือข่าย

ระบบเครือข่ายแบบดาว (Star Topology)
ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง เรียกว่า โฮสต์ (Host) หรือ เซิฟเวอร์ (Server) ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นแลอุปกรณ์ที่เหลือ ระบบนี้เหมาะกับการประมวลผลที่ศูนย์กลางและส่วนหนึ่งทำการประมวลผลที่เครื่องผู้ใช้ (Client or Work Station) ระบบนี้มีจุดอ่อนอยู่ที่เครื่อง Host คือ การสื่อสารทั้งหมดจะต้องถูกส่งผ่านเครื่อง Host ระบบจะล้มเหลวทันทีถ้าเครื่องHost หยุดทำงาน


ระบบเครือข่ายแบบบัส (Bus Toplogy)
เป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยสายสื่อสารเพียงเส้นเดียว อาจใช้สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเซียล หรือสายใยแก้วนำแสงก็ได้ สัญญาณที่ถูกส่งออกมาจากอุปกรณ์ตัวใดก็ตามจะเป็นลักษณะการกระจายข่าว (Broadcasting) โดยไม่มีอุปกรณ์ตัวใดเป็นตัวควบคุมระบบเลย แต่อาศัยซอฟท์แวร์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์แต่ละตัวทำหน้าที่ควบคุมการสื่อสาร ในระบบบัสนี้จะมีอุปกรณ์เพียงตัวเดียวที่สามารถส่งสัญญาณออกมา อุปกรณ์ตัวอื่นที่ต้องการส่งสัญญาณจะต้องหยุดรอจนกว่าในระบบจะไม่มีผู้ใดส่งสัญญาณออกมาจึงจะส่งสัญญาณของตนออกมาได้ถ้าหากส่งออกมาพร้อมกันจะเกิดปัญหาสัญญาณชนกัน (Collision) ทำให้สัญญาณเกิดความเสียหายใช้การไม่ได้ และระบบนี้จะมีประสิทธิภาพต่ำถ้ามีอุปกรณ์เชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก


ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน (Ring Topology)
ระบบเครือข่ายวงแหวนจะมีลักษณะคล้ายเครือข่ายบัสที่เอาปลายมาต่อกัน โดยไม่มีอุปกรณ์ใดเป็นตัวควบคุมการสื่อสารของระบบเลย และข้อมูลในวงแหวนจะเดินไปในทิศทางเดียวกันเสมอระบบเครือข่ายตามขนาดทางกายภาพของระยะทางในการส่งข้อมูลระบบเครือข่ายในลักษณะนี้ ได้ให้คำจำกัดความจากตำแหน่งที่ตั้งและขอบเขตวงกว้างของการใช้งานซึ่งแบ่งได้หลายอาณาเขต
1. เครือข่ายเฉพาะบริเวณ (Local Area Networks) หรือเครือข่ายระบบแลน (LAN)
2. เครือข่ายในเขตเมือง (Metropolitan Area Networks) หรือเครือข่ายระบบแมน (MAN)
3. เครือข่ายวงกว้าง (Wide Area Networks) หรือเครือข่ายแวน (WAN)เครือข่ายเฉพาะบริเวณ (LAN)มีขอบเขตการทำงานแคบ มักอยู่ในอาคาร ออฟฟิศ สำนักงาน หรือหลายอาคารที่อยู่ติดกัน ไม่เกิน 2,000 ฟุต

ระบบ LAN
ได้รับความนิยมมากในการเชื่อมต่ออุปกรณ์สำนักงานเข้าด้วยกัน โดยมีสายนำสัญญาณการสื่อสารที่เป็นของตนเอง โดยใช้ Topology แบบบัส หรือวงแหวนและมีช่องสื่อสารที่กว้าง เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สำนักงาน อุปกรณ์ระบบแสดงผล พิมพ์งาน และการรับส่งข้อมูลข่าวสารในสำนักงานทำงานร่วมกันได้ถ้าหากการใช้งานในบางจุดของสำนักงานไม่สามารถเดินสายเคเบิลได้ หรือมีข้อจำกัดด้านการติดตั้งและลงทุนเช่น การต่อสาย LAN ข้ามตึกหรือระหว่างชั้นสำนักงาน ก็สามารถประยุกต์ใช้ระบบ LAN ไร้สาย มักมีเครื่องคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่งทำหน้าที่เป็น Host หรือ เซิฟเวอร์ (Server) ซึ่งคล้ายกับบรรณารักษ์ คอยจัดเก็บโปรแกรมและฐานข้อมูล และควบคุมการเข้าใช้ของ User แต่ละคน เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็น Server นี้มักมีหน่วยความจำใหญ่และมีหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าพีซีปกติความสามารถในการทำงานของระบบแลนถูกกำหนดโดย ระบบปฏิบัติการเครือข่าย (Network Operating System ; NOS )ที่ติดตั้งอยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องหรืออาจอยู่ที่เครื่อง Server เพียงเครื่องเดียวระบบปฏิบัติการจะทำหน้าที่ในการ กำหนดเส้นทางการเดินทางของข้อมูลในเครือข่ายและจัดการบริหารการสื่อสารตลอดจนควบคุมการใช้งานทรัพยากรทั้งหมดในเครือข่ายตัวอย่างซอฟท์แวร์ที่นิยมใช้ ได้แก่ Novell Netware , Microsoft Windows 2000 Server , IBM’s OS/2 Warp Server เป็นต้น ซึ่งซอฟท์แวร์ประยุกต์ที่ใช้บนระบบเครือข่าย LAN ในปัจจุบันมักนิยมทำงานในแบบผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ (Client / Server System) โดยที่เครื่องผู้ให้บริการจะเป็นผู้จัดเตรียมข้อมูลและโปรแกรมให้ผู้ใช้บริการ

ระบบเครือข่ายในเขตเมือง (MAN)
โดยพื้นฐานแล้วระบบเครือข่ายในเขตเมือง (Metropolitan Area Network) มีลักษณะคล้ายกับระบบ LAN แต่มีอาณาเขตที่ไกลกว่าในระดับเขตเมืองเดียวกัน หรือหลายเมืองที่อยู่ติดกันก็ได้ ซึ่งอาจเป็นการให้บริการของเอกชนหรือรัฐก็ได้ เป็นการบริการเฉพาะหน่วยงาน มีขีดความสามารถในการให้บริการทั้งรับและส่งข้อมูล ทั้งภาพและเสียง เช่นการให้บริการระบบโทรทัศน์ทางสาย (Cable TV)

ระบบเครือข่ายวงกว้าง (WAN)
เป็นระบบที่มีขอบเขตการใช้งานกว้างกว่า ไกลกว่าระบบแลน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นระบบที่ไร้ขอบเขตแล้ว เช่นระบบการสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ แต่การที่จะเชื่อมต่อเครือข่ายที่มีระยะห่างกันมากๆให้เป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องอาศัยเครือข่ายสาธารณะ (Public Networks) ที่ให้บริการการสื่อสารโดยเชื่อมต่อผ่านโมเด็ม ผ่าน เครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ (Public Switching Telephone Network ; PSTN)ซึ่งมีทั้งลักษณะต่อโมเด็มแบบที่ต้องมีการติดต่อก่อน (Dial-up) หรือต่อตายตัวแบบสายเช่า (Lease Line)ระบบเครือข่ายที่พิจารณาจากขอบเขตการใช้งานขององค์กร

ระบบอินทราเนต(Intranet)
ในปัจจุบันบางองค์กรได้จำลองลักษณะของอินเตอร์เนตมาเป็นเครือข่ายภายในและใช้งานโดยบุคคลากรของบริษัท ผู้คนในบริษัทจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อกันในองค์กรเฉพาะเครือข่ายของบริษัทตนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับองค์กรอื่นภายนอกทั้งที่อยู่ในสำนักงานเดียวกันหรือต่างสาขาก็ได้ หรือจะอยู่คนละภูมิประเทศก็ได้ สามารถสื่อสารกัน (Interfacing) ได้โดยการใช้ Web Browser เขียนเป็น Home Pages เหมือนอินเตอร์เนตโดยทั่วไป ด้วยกราฟฟิก ภาพ ข้อความ เสียงและมี Function ต่างๆ เช่น Web-board การ Log-in การเปิดหน้าต่าง Browser ด้วยวิธีการคลิ๊กทีละ Page นำเสนอข้อมูลที่สวยงาม ง่ายต่อการเข้าใจ มีระบบจดหมายอีเลกทรอนิกส์ มี Account ให้พนักงานแต่ละคนใช้ส่วนตัวมีระบบโต้ตอบและสนทนาได้อัตโนมัติ ตัวอย่างของระบบอินทราเนต ที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่ ระบบซอฟท์แวร์ Lotus-Note ของบริษัท IBMข้อดีของอินทราเนตที่องค์กรต่างๆนิยมใช้เพราะ เป็นส่วนตัว (Privacy) ในระดับองค์กร คาวมเร็วในการส่งผ่านข้อมูลที่จำเป็นเฉพาะองค์กร การป้องกันการรั่วไหลของความลับองค์กร แต่ในขณะเดียวกันระบบอินทราเนตสามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เนตภายนอกได้ทันที เพราะอาศัย Protocol มาตรฐาน TCP/IP เหมือนกันระบบเอ็กทราเนต (Extranet) เป็นอีกลักษณะของระบบเครือข่ายที่เป็นระบบสารสนเทศระหว่างองค์กร (Inter-Organization ; I-OIS) ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารข้อมูลระหว่างองค์กรที่มีความสัมพันธ์กัน ต้องการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ติดต่อธุรกรรมกันเป็นประจำ ระหว่างพนักงาน บริษัทคู่ค้า บริษัทลูกค้า หรือบริษัทที่เป็นพันธมิตรกันระบบเอ็กทราเนตจะอาศัยโครงสร้างของอินทราเนตและอินเตอร์เนตในการทำงานสื่อสารระหว่างองค์กรแต่อาจอาศัยเครือข่ายเฉพาะส่วนบุคคล (Virtual private Networks ; VPN) ซึ่งจะต้องมีการเข้ารหัสต่างๆ เพื่อขออนุญาตเข้าใช้เครือข่าย มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กรระหว่างกัน ปัจจุบันนิยมมากในกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะเป็นพันธมิตรทางการค้า (Alliance) ที่ต้องอาศัยข้อมูลของบริษัทร่วมกัน (Collaboration Commerce ; C-Commerce) เช่น ข้อมูลสต็อกสินค้า ข้อมูลลูกค้า และมีฟังก์ชั่นการทำงานในลักษณะโต้ตอบ สนทนา แบบ Real timeระบบอินเตอร์เนต (Internet)เป็นระบบที่รู้จักกันดีและใช้งานกันอยู่เป็นประจำ เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน เชื่อมโยงศูนย์คอมพิวเตอร์ทั่วโลกเข้าไว้เป็นระบบเดียว จึงเป็นระบบสื่อสารที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพราะมีประโยชน์ในวงการต่างๆ มากมายอินเตอร์เนตที่ทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้เพราะมีมาตรฐานหรือโปรโตคอลที่ชื่อว่าTCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol)ซึ่งสามารถเชื่อมโยงได้โดยผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เนตเชิงพาณิชย์ (Internet Service Provider ; ISP ) ซึ่งจะทำหน้าที่ให้บริการเสมือนศูนย์กลางการสื่อสารคอยติดต่อประสานงานกับวงอินเตอร์เนตอื่นๆทั่วโลก เสมือนสำนักงานไปรษณีย์ที่คอยส่งจดหมายไปตามที่อยู่ (IP Address)ของผู้รับ ผู้ให้บริการอินเตอร์เนตในประเทศไทยปัจจุบันได้แก่ Loxinfo , CS Communication , Internet KSC , AsiaNet ,Telecomasiaหรือแม้แต่องค์การโทรศัพท์หรือ ทศท.คอร์เปอเรชั่น จำกัดในปัจจุบันก็หันมาทำธุรกิจให้บริการอินเตอร์เนตด้วย

IP Address
หรือบ้านเลขที่บนอินเตอร์เนต ถ้าเปรียบอินเตอร์เนตเป็นเมืองขนาดใหญ่และเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเป็นบ้านที่มีถนนเชื่อมถึงกัน เครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้นย่อมต้องมีเลขที่บ้านเพื่อให้รู้ตำแหน่งกันโดยไม่ซ้ำกับเครื่องใดในโลก IP Address ประกอบไปด้วยตัวเลข 4 ชุด ต่อกัน โดยมีจุดเป็นสัญญลักษณ์แบ่งตัวเลข แต่ละชุดมีค่าตั้งแต่ 0 – 255 โดยสามารถทำการขอเลข IP ได้จากหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจาก InterNIC (Internet Network Information Center) เช่นผู้ให้บริการอินเตอร์เนตทั่วไปInternet Address คงไม่มีใครอยากจะจดจำ IP Address เพราะเป็นชุดตัวเลขที่ยาวมากไม่สะดวกต่อการจดจำและเรียกใช้ลำบาก จึงมีการกำหนดชื่อเรียกขึ้นมาแทนIP Address เหมือนการจดทะเบียนการค้า มีเลขทะเบียนการค้าแล้ว แต่ต้องจดทะเบียนชื่อห้างร้านด้วย

Internet Address
อยู่ในรูปของตัวอักษร นิยมตั้งให้จำได้ โดยมากใช้ชื่อองค์กรหรือชื่อที่มีความสัมพันธ์กับเนื้อหาหรือวัตถุประสงค์ขององค์กรหรือบุคคลเจ้าของ Website นั้นๆ โดยมีตัวย่อหลังเครื่องหมายจุดในอินเตอร์เนตแอดเดรสเป็นตัวระบุความแตกต่างกันของขนิดองค์กรที่พบบ่อยๆ ได้แก่ส่วนอินเตอร์เนตแอดเดรสในประเทศไทยมักมี.th ตามต่อท้ายเพื่อให้ทราบว่ามี IP อยู่ในประเทศไทยเป็นการกำหนดตำแหน่งประเทศที่เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ ตั้งอยู่ เช่น co.th , ac.th , go.th , or.th เป็นต้น บริการต่างๆในอินเตอร์เนต ตัวอินเตอร์เนตเอง คือระบบที่สร้างขึ้นเพื่อการเชื่อมต่อข้อมูลแต่ข้อมูลที่จะเชื่อมต่อกันบนอินเตอร์เนตอาจอยู่ในรูปแบบใดๆก็ได้ ขึ้นกับความต้องการผู้ใช้ โดยมากที่เราพบเห็นจะอยู่ในรูปแบบ www (World Wide Web หรือที่เรารู้จักกันว่า Web site) แต่อินเตอร์เนตมีรูปแบบที่ให้บริการต่างๆได้มากมาย อาทิ
1. เครือข่ายใยพิภพ (เครือข่ายใยแมงมุม) World Wide Webประกอบไปด้วย Website ต่างๆมากมายบนโลก
2. บริการจดหมายอีเล็กทรอนิกส์ (e-Mail) ที่มีชื่อเสียงที่เรารู้จักก็คือ โปรแกรม OutLook หรือบริการ e-mail บนเว็บยอดฮิตก็ Hotmail ที่รูจักกันดี
3. บริการโอนย้ายไฟล์ (File Transfer Protocol ; FTP) บริการให้ Up – Down load แฟ้มข้อมูลต่างๆ
4. Usenet บอร์ดข่าวสารบนอินเตอร์เนต
5. ระบบการสนทนาโต้ตอบแบบทันที (Internet Relay Chat ; IRC)
6. Internet Phone หรือ Voice Mail ที่สามารถใช้เสียงพูดคุยผ่านอินเตอร์เนต (VoiceOverIP)
7. การให้บริการแฟกซ์ผ่านอินเตอร์เนต (Internet Fax)
8. การให้บริการภาพและเสียงผ่านอินเตอร์เนต (Streaming audio and video)

***************************************************


ข้อสอบปรนัย เรื่อง Topology

1.ระบบเครือข่ายแบบดาว ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง เรียกว่า
ก.โฮสต์ (Host) หรือ เซิฟเวอร์
ข.ดาว
ค.ถูกทุกข้อ
ง.ไม่มีข้อถูก

2.ระบบเครือข่ายแบบวงแหวน มีลักษณะอย่างไร
ก.ระบบเครือข่ายวงแหวนจะมีลักษณะคล้ายเครือข่ายบัสที่เอาปลายมาต่อกัน
ข.มีลักษณะเป็นวงกลม
ค.มีลักษณะสี่เหลี่ยม
ง.มีลักษณะวงรี

3.ระบบเครือข่ายตามขนาดทางกายภาพของระยะทางในการส่งข้อมูลเป็นหลักได้แก่
ก.เครือข่ายเฉพาะบริเวณ (LAN)
ข.เครือข่ายในเขตเมือง (MAN)
ค.เครือข่ายวงกว้าง (WAN)
ง.ถูกทุกข้อ

4.Topology รูปแบบใดต่อไปนี้ที่ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง
ก. โทโปโลยีแบบบัส (BUS)
ข. โทโปโลยีแบบ MESH

ค. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)
ง. โทโปโลยีแบบดาว (STAR)

5.รูปแบบที่ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาณที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย คือ
ก. โทโปโลยีแบบบัส (BUS)
ข. โทโปโลยีแบบ Hybrid
ค. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)

ง. โทโปโลยีแบบดาว (STAR)

***************************************************

E-Learning

http://comed.pkru.ac.th:8080/course/info.php?id=28
สถาบันราชภัฏภูเก็ต
http://www.bsru.ac.th/~mua/regis/d_sc248.htm
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
http://csit.aru.ac.th/content/blogcategory/0/5/
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
http://www.academic.hcu.ac.th/e-learning/e-learning.html
มหวิทยาลัยหัวเฉลียวเฉลิมพระเกียรติ
http://e-learning.tu.ac.th/
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
http://e-learning.mfu.ac.th/
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
http://regelearning.payap.ac.th/
มหาวิทยาลัยพายัพ
http://elearning.utcc.ac.th/lms/main/default.asp
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
http://md.rmutk.ac.th/
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
http://www.computer.cmru.ac.th/academic_modules.php?type=1
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่